เรื่องหลอนของคนขับรถกลางคืน

 

เรื่องเล่าหลอนๆ ของคนขับรถกลางคืน

เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้น เมื่ออาทิตย์ก่อนที่หยุดยาว4วันนั่นแหละคับ คือ เมื่อวันศุกร์นั้น ผมเริ่มออกเดินทางจากกทม. ไปที่จังหวัดพังงา เพื่อไปเที่ยวพักผ่อนกับแฟน 2 คน เหตุการณ์ทุกอย่าง ก็ผ่านไปตามปกติ ค้างที่โรงแรมแห่งหนึ่ง3คืน ก็ปกติ ไม่มีอะไรผิดแปลกคับ จนขากลับ เมื่อวันจันทร์ที่แล้วนี้เองผมเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม ก็ตอนเที่ยงๆ แต่ด้วยความที่ ขามานั้น รถติดบรรลัย เลยกะว่า จะเข้ากทม.ดึกๆหรือไม่ก็ค่อนเช้าไปเลย 

เพื่อเลี่ยงรถติด จึงไปหาร้านอาหาร นั่งกินไป กินเสร็จก็ไปหาดท้ายเหมือง ไปนั่งเล่นเพื่อฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ ฝนตกสลับหยุดเรื่อย นั่งๆนอนๆฟังเพลงอยู่ในรถกันไป ฝนหยุดก็ลงไปเดินเล่นหาด ฝนตกก็ขึ้นมาบนรถ จนเวลาล่วงไปจนเกือบทุ่ม ผมคิดในใจว่า คงได้เวลาออกเดินทางแล้วล่ะจึงเริ่มออกเดินทาง แต่ขามา มาทางสุราษฏร์ รู้สึกว่ารถเยอะ ขากลับ ก็ตั้งใจว่า จะกลับทางระนองและไปโผล่ชุมพรเลย 

เพื่อเลี่ยงรถเยอะๆไปในตัว แวะปั๊ม อัดน้ำมันเต็มถัง แล้วก็ตั้งgpsไว้ที่หัวหินก่อน เผื่อกันเหนียวไว้ แล้วก็เริ่มออกเดินทางฝนตกสลับหยุด+ทางมืด และเป็นที่รู้กันว่า ระนอง โค้งมันเยอะค่อนข้างมาก ประกอบกับ มีการทำทางบางช่วง จึงใช้ความเร็วได้ไม่มากนัก ประกอบกับ คนส่วนใหญ่น่าจะใช้เส้นทางสุราษฏร์ซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผมแทบจะวิ่งอยู่คันเดียวเลยก็ว่าได้ผมขับมาถึงช่วงนึง ซึ่งไฟทางไม่ต้องถามหาคับ มืดสนิท มีเพียงไฟหน้าเท่านั้น ที่เป็นที่พึ่ง มองนาฬิกาในรถ ตอนนั้นเพิ่งจะ2ทุ่มนิดๆ ผ่านมาถึงโค้งๆนึง เหลือบไปเห็น มอเตอร์ไซด์ คันนึง จอดอยู่ปลายๆโค้ง แล้วก็เห็น วัยรุ่นชาย2คน คนนึงมีไฟฉายคาดไว้ที่หัว เดินวนไปมาเหมือนหาอะไรอยู่สักอย่างเท่าที่เห็นแว๊บเดียว พอจะเลาๆว่า ทั้งคู่อยู่ในชุดบอล เสื้อกับเกงสีเดียวกัน คนนึงใส่สีแดง อีกคนใส่สีเขียว ไม่ถึง10นาที ถนนสลับเข้าสู่เลนคู่ แยกไปกลับ มีไฟทางสว่างขึ้นมา มีมอไซด์คันนึง แซงขึ้นไปจากทางด้านขวา เหลือบไปมอง อ่อ เจ้า2คนตะกี้นี้เอง คนขี่บิดเร็วมาก มองหน้าไมล์ตัวเอง 

ความเร็วที่ใช้ ประมาณ100กม/ชม. ไม่กล้าขับเร็วมาก เพราะฝนตก + แฟนหลับอยู่ แปปเดียวมอไซด์คันนั้น ก็หายลับไปก็ขับไปตามปกติ ถนนก็กลับไปสู่เลนสวนอีกครั้ง ไฟทางก็ไม่มีอีกแล้ว ขับไปราวๆ3กม. อีกแล้ว มอไซด์คันเดิม จอดอยู่โค้งข้างหน้า ที่เห็นเพราะผมยกไฟสูง แล้วก็เหมือนเดิมคับ เค้าทั้ง2 ก็เหมือนลงมาเดินหาอะไรสักอย่าง ผมผ่าน 2 หนุ่มนั่นมา ก็คิดในใจ เค้าทำอะไรหล่นรึไงนะ สักพัก ก็เหมือนเดิมคับ 2หนุ่มบิดมอไซด์แซงไปด้วยความเร็วที่เร็วมาก กะว่า ไม่น่าต่ำกว่า120แน่แล้วก็วนซ้ำคับ อีกไม่ถึง5กม. ก็เอาอีกแล้ว เค้าจอดรถมอไซด์ แล้วก็ลงไปเดินๆหาอะไรในพงหญ้าริมทางรถวิ่งมาถึง ทางเลนคู่อีกครั้ง ไฟทางสว่างไสว มองกระจกหลัง อย่างที่คิดคับ แสงไฟหน้ารถมอไซด์สะท้อนเข้ากระจกมาคับคิดในใจ อะไรของพวกเค้าหว่า จังหวะที่รถเราตีคู่กัน หันไปมองทางด้านขวา ที่ 2 หนุ่มกำลังจะแซงขึ้น หากแต่คราวนี้ ภาพที่เห็นคือ…สภาพของคนขี่ ที่สวมไฟฉายไว้ที่หัว หัวของเจ้าหนุ่ม มันไม่ได้อยู่บนคอของเค้าคับ หากแต่ 

เค้าเอามือขวาบิดคันเร่ง มือซ้ายถือหัวของตัวเค้าเองที่มีไฟฉายคาดอยู่ เค้ายื่นหัวของเค้าไปข้างหน้า เหมือนว่า ให้หัวมันใช้ตาดูทางคับ ส่วนเจ้าคนซ้อนนี่หนักเลยคับ คือ มือด้านขวาของเค้า จับไหล่คนขี่ไว้ แขนซ้ายห้อนร่องแรง จะขาดมิขาดแหล่ แต่…ไม่มีหัวคับ ในตอนนั้น ผมสตั้นไปนานขนาดไหนไม่รู้ได้คับ รู้แค่ว่า ล้อรถมันไปกระทบกับ ลูกแก้วสะท้ออนแสงตรงเส้นทึบขอบทางด้านซ้าย สติผมถึงจะกลับมา คือ รถแทบจะตกถนนแล้วคับ ผมประคองรถกลับเข้าเลน ใจมันวูบเหมือนตกลงไปที่เท้า 

มอไซด์คันนั้น ก็บิดแซงผมไป เพราะตอนนี้ ความเร็วรถ ตกลงเหลือแค่70เท่านั้น คิดในใจ อะไรหว่า ภาพที่เห็นเมื่อกี้ คืออะไรหว่า จริงหรือหลอนนะ ถนน กลับเข้าสู่ เลนสวนอีกครั้ง พร้อมกับไฟทางที่ไม่มีอีกแล้วขาสั่น คอแห้งผาก จะปลุกแฟน ก็กลัวเค้าจะหาว่าเพ้อเจ้อผมภาวนาในใจ โค้งหน้า ขออย่าให้เจออีกนะ…แล้วผมก็แปลกใจมากว่า ทำไม ช่วงวเลานั้น ไม่มีรถขับสวนมา หรือ แซงผมหรือให้ผมแซงขึ้นไปบ้างเลย เหมือนว่า ในช่วงตอนนั้น มอไซค์วิ่งกันอยู่2คัน

ที่ต้นโค้ง ไม่ต้องเปิดไฟสูง ก็เห็นได้ลางๆเลยว่า มีเจ้ามอไซด์คันเดิมจอดอยู่ หากแต่คราวนี้ 2หนุ่ม ยืนอยู่ข้างๆรถ เจ้าหนุ่มชุดแดงที่มีไฟฉายคาดที่หัว เต้นแร้งเต้นกา เหมือนดีใจอะไรสักอย่าง โดยที่มือซ้ายยังถือหัวตัวเอง เต้นไปเต้นมาส่วนเจ้าชุดเขียว นั้น ก็มีท่าทีไม่ต่างกัน แต่มันต่างจากตอนที่ผมเห็นเค้าซ้อนอยู่ก็คือ มือขวาของเค้า ถือหัวของตัวเองไว้ เหมือนดีใจว่า เจอหัวตัวเองแล้วผมอธิบายอาการตัวเองตอนนั้นไม่ถูกคับ ขาอ่อน มือสั่น เหงื่อแตก ปากคอแห้งผาก มือที่จับพวงมาลัย ทั้งสั่น ทั้งชุ่มไปด้วยเหงื่อ 

แทบไม่มีแรงประคองรถแล้วคับ สติผมกลับมาอีกครั้ง เพระาเสียงแตรลมดังสนั่น พร้อมกับแสงไฟสูงจากทางด้านหลังรถผมสาดเข้ากระจกมองหลังมาเข้าตาผมผมประคองรถ ให้กลับมาตรงเลน ตามองจ้องที่ไมล์ ความเร็วตอนนั้นอยู่ที่40คับ คือพี่10ล้อพ่วง เค้าคงมาเร็วกว่า แล้วเห็นผมช้า แถมสะง๊อกสะแง๊ก ขับไม่ตรงเลน เลยเตาะไฟ+บีบแตรสนั่น จึงเพิ่มความเร็วขึ้น เรียกสติกลับมาแฟนผมสะดุ้งตื่นพอดี จึงถามว่า เกิดอะไรขึ้น ก็เลยบอกว่า ไม่มีอะไรถนน เริ่มกลับมาที่เลนคู่อีกครั้ง หลบซ้ายให้พี่10ล้อพ่วงแซงขึ้นไป พร้อมขับอยู่ท้ายพี่เค้าไปยาวๆ คราวนี้ ไม่มีอะไรแล้วคับ จนพี่10ล้อพ่วง เค้าชลอแล้วเลี้ยวเข้าซอยไป ผมไม่รู้ว่า ช่วงที่ผมเจอสิ่งที่เรียกว่าผีนั้น กินเวลานานเท่าไร ระยะทางที่ขับ ไกลขนาดไหน รู้แค่เพียงว่า มันเป็นช่วงเวลาที่ลืมไม่ลงจริงๆ

แชร์ประสบการณ์หลอน อยากเล่าเรื่องผีจากชีวิตจริง หรืออ่านเรื่องผีของคนอื่น คอมเม้นมาใต้ Blog ได้เลย 

Cr:  GHOSTTH

 เล่าเรื่องผี ผีไทย ผีต่างชาติ ประสบการณ์สยองขวัญที่สุด